Smart Slider 3

Arrow
Arrow
Slider

วิปัสสนากรรมฐานเป็นธรรมปฏิบัติขั้นสูงสุด

โดย พระครูภาวนาวิหารธรรม วิ.

วิปัสสนากรรมฐานเป็นธรรมปฏิบัติขั้นสูงสุด จุดมุ่งหมายเพื่อดับกิเลสและดับทุกข์สิ้นเชิง มีสอนและปฏิบัติเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น พระพุทธศาสนาสอนการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งที่มากระทบจิตผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ กล่าวคือความรู้สึกที่เห็น ได้ยิน  รู้กลิ่น  รู้รส  รู้สัมผัส  และสภาวะความรู้สึกนึกคิดทางใจ  มิให้สิ่งเหล่านี้เป็นฐานให้กิเลสปรุงแต่งนำไปสู่ความทุกข์ได้อีก ดังนั้น วิปัสสนากรรมฐานจึงสามารถดับหรือละกิเลสได้  เพราะการ ละ กิเลสกล่าวคือ ละตัณหา อุปาทาน  มิให้ปรุงแต่งสิ่งทั้งหลายดังกล่าวข้างต้น  ในขณะที่สิ่งนั้น ๆ กำลังเกิดขึ้นอยู่ที่ทวารทั้ง ๖ ท่านกล่าวว่าเป็นการปฏิบัติตรงและปฏิบัติชอบในกิจของอริยสัจ ๔ นั่นคือ  เห็นความทุกข์ , เหตุให้เกิดทุกข์ ,ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้ , และหนทางเครื่องถึงความระงับทุกข์ ดังนี้

กิเลสมี ๓ ระดับคือ

๑. กิเลสอย่างหยาบ  ทำให้เกิดการแสดงออกทางกาย หรือทางวาจาให้ปรากฏแก่บุคคลภายนอก รับรู้อกุศลกรรมนั้นๆ ได้   กิเลสอย่างหยาบนี้ละได้ด้วยศีล

๒. กิเลสอย่างกลาง เมื่อเกิดขึ้นจะแสดงออกอยู่ภายนอกจิตใจ โดยที่บุคคลภายนอกอาจไม่สังเกตรู้ได้ ได้แก่ความยินดีพอใจ  ความพยาบาท  ความฟุ้งซ่านรำคาญใจเป็นต้น  กิเลสอย่างกลางนี้ละด้วยสมาธิ

๓. กิเลสอย่างละเอียด เรียกว่าอนุสัย เป็นกิเลสที่ถูกสั่งสมนอนเนื่องอยู่ภายใน แม้แต่ตัวเองก็ไม่อาจรู้ได้จนกว่าจะมี อารมณ์ที่ถูกตรงกับปมของอนุสัยนั้นจึงเกิดความไหวตัวแสดงออกมาเป็นกิเลสอย่างกลางหรือพลุ่งพล่านจนระงับไม่ได้เป็นกิเลสอย่างหยาบแล้วแต่กรณี อนุสัยกิเลสนี้ท่านกล่าวว่าละได้ด้วยปัญญา

ดั้งนั้นกิเลสทั้งสามคือ อนุสัยกิเลส กิเลสอย่างกลาง และกิเลสอย่างหยาบ สามารถละได้ด้วยปัญญานั่นเอง   พุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวที่สอนให้ใช้ปัญญาในการละอนุสัยกิเลส  กล่าวคือปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่กำลังกระทบใจ   ผ่านทางทวารทั้ง ๖ ดังกล่าวสิ่งที่มากระทบใจผ่านทางทวารทั้ง ๖ นี้ ที่แท้ก็คือสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั่นเอง ซึ่งตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยศึกษาเรียนรู้สภาวะที่แท้จริงของสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นเพียงการเห็น ได้ยิน รู้กลิ่น    รู้รส  รู้สัมผัส  และรู้ความนึกคิด  ความรู้สึกทางใจที่มีต่อโลกภายนอก และโลกภายในเท่านั้นเอง  เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมดา กล่าวคือ เกิด - ดับ เป็นไปตามเหตุปัจจัย จึงมี ลักษณะที่เปลี่ยนแปลง (อนิจจัง) ไม่คงทนถาวร (ทุกขัง) และไม่อยู่ในบังคับบัญชาของใครเป็นไปตามธรรมชาติของเหตุปัจจัย (อนัตตา) รวมเรียกว่า ไตรลักษณ์ อันเป็นสามัญลักษณะของสิ่งทั้งปวง

 

การใช้สติสัมปชัญญะพิจารณาสังเกตในสรรพสิ่งที่ใจกำลังรับรู้ (แยกตามฐานที่ปรากฏเป็น ๔ ฐาน คือ กาย เวทนา จิต และธรรม) อย่างติดต่อ ต่อเนื่อง ด้วยการวางใจเป็นกลางประกอบด้วยศรัทธา  ที่สมดุลกับปัญญาและวิริยะที่สมดุลกับสมาธิ  จนกระทั่งเห็นไตรลักษณะดังกล่าวข้างต้นในทุกสรรพสิ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า นำไปสู่ความเบื่อหน่าย คลายความยึดติดในสิ่งนั้นๆ เป็นการลดละอนุสัยกิเลสให้น้อยลงไปตามลำดับวิธีการปฏิบัติเช่นนี้ท่านเรียกว่า การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน กล่าวคือเป็นการเห็นความจริงของสิ่งที่จะก่อให้เกิดกิเลสนั้นเสียก่อน  กิเลสจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้อนุสัยที่สั่งสมอยู่ไม่ได้รับเชื้อที่จะเติมเข้าไป ย่อมจะหดตัวเบาบางลง อนุสัยกิเลสยิ่งลดน้อยลง ความเบากาย เบาจิต ยิ่งมีมากขึ้น   คือความทุกข์น้อยลงไปตามลำดับ  จนถึงความดับทุกข์ได้อย่างเด็ดขาดเป็นสมุทเฉทปหาน ซึ่งเป็นสภาวะทางจิตที่สามารถเห็นแจ้งประจักษ์ได้เองดังที่ท่านตรัสว่า ธรรมะในพระพุทธศาสนานี้เป็น สันทิฏฐิโก การปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งละอนุสัยกิเลส  คือ อวิชชา  ตัณหา  อุปาทานทั้งปวงนี้ เป็นการปฏิบัติ ศีลสิกขา จิตตสิกขา  และปัญญาสิกขาไปพร้อมกัน  เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา อันเป็นการกระทำกิจที่ถูกต้องและเป็นการปฏิบัติชอบในกิจของอริยสัจ ๔ ในข้อที่ว่าอริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นกิจที่ควรเจริญ สมดังที่ท่านกล่าวว่า วิปัสสนากรรมฐานเป็นธรรมปฏิบัติขั้นสูงสุดดังนี้

 

เพราะในศาสนาอื่นมีสอนเฉพาะศีล  เพื่อละกิเลสที่แสดงออกทางกาย  ทางวาจา  และสอนสมาธิ    เพื่อละกิเลสที่แสดงออกทางใจ โดยที่อาสวะกิเลสยังไม่สามารถละได้ดังนั้นจึงเป็นการปฏิบัติธรรมในระดับโลกียะเท่านั้น ไม่สามารถออกไปจากวังวนของสังสารวัฏได้เลยเพราะยังจะต้องมีทุกข์  คือความโศกเศร้า  ร่ำไรรำพัน  ทุกข์กาย  ทุกข์ใจและความคับแค้นใจด้วยประการต่างๆ อยู่ตลอดไปไม่มีอันจบสิ้นได้เลย

 

หลวงพ่อพระครูภาวนาวิหารธรรม วิ.

พระวิปัสสนาจารย์  โพธิปักขิยธรรมสถาน

จากหนังสือ  : ของฝากจากพระอาจารย์มหาเหล็ก จนฺทสีโล 

<iframe src="https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d1148.0393315657427!2d101.08472765233319!3d14.568926928722412!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x311dc4b09ce141bf%3A0x3e09f51b4dc9633f!2z4LmC4Lie4LiY4Li04Lib4Lix4LiB4LiC4Li04Lii4LiY4Lij4Lij4Lih4Liq4LiW4Liy4LiZ!5e0!3m2!1sth!2sth!4v1507624381853" width="600" height="450" frameborder="0" style="border:0" allowfullscreen></iframe>

ขอเชิญปฏิบัติธรรม ณ โพธิปักขิยธรรมสถาน สระบุรี

  

 ขอเชิญปฏิบัติธรรม และร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร ผู้ปฏิบัติธรรม

และสนับสนุนโครงการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน หลักสูตร 4 วัน 16,000 บาท หลักสูตร 7 วัน 28,000 บาท

หรือ วันละ 4,000 บาท (ประกาศชื่อในป้ายประกาศ และเป็นตัวแทนเข้าถวายเพลพระภิกษุสงฆ์)

หรือตามกำลังศรัทธา  หมายเหตุ  โทรแจ้งสมัครเข้าปฏิบัติธรรมที่ 08-2238-9928 (สำนักงาน) 

หรือ ส่งข้อความผ่าน Inbox ในแฟนเพจ โพธิปักขิยธรรมสถาน  (คลิกที่นี่ )

 

 หมายเหตุ ปี 2566 สนับสนุนโครงการปฏิบัติธรรม วันละ  3,000 บาท และปรับเป็นวันละ 4,000 บาท ในปี 2567 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

อ่านเพิ่มเติม

 

 

ขอเชิญปฏิบัติธรรม และร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร ผู้ปฏิบัติธรรม

และสนับสนุนโครงการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน หลักสูตร 4 วัน 12,000 บาท หลักสูตร 7 วัน 21,000 บาท

หรือ วันละ 3,000 บาท (ประกาศชื่อในป้ายประกาศ และเป็นตัวแทนเข้าถวายเพลพระภิกษุสงฆ์)

หรือตามกำลังศรัทธา  หมายเหตุ  โทรแจ้งสมัครเข้าปฏิบัติธรรมที่ 08-2238-9928 (สำนักงาน) 

หรือ ส่งข้อความผ่าน Inbox ในแฟนเพจ โพธิปักขิยธรรมสถาน  (คลิกที่นี่ )

 

 

 

ถาม-ตอบ การเตรียมตัวเข้าปฏิบัติธรรม

ถาม -  ควรเตรียมจัดกระเป๋าอย่างไรเพื่อมาปฏิบัติธรรม

ตอบ - ของใช้ส่วนตัว สำหรับไปค้างคืนตามปกติ โดยเสื้อผ้า เป็นชุดปฏิบัติธรรมสีขาวล้วน  หากไม่มีสามารถใส่เป็นกางเกง เสื้อยืดสีขาวได้ เตรียมมาให้พอจำนวนวัน (มีให้ยืมที่สำนักงาน หากไม่มี) 

ช่วงทำวัตรเย็น จะอยู่ในศาลามีแอร์ และช่วงกลางคืน อากาศเชิงเขาอาจจะเย็น ให้เตรียมผ้าคลุมหรือเสื้อแจ๊กแก็ตบางๆมาด้วย หากไม่ชอบความเย็น

ไม่ควรเอางาน หนังสือ หรือสิ่งที่จะกวนใจมาด้วย มือถือไม่ควรนำมาเปิด ไม่ควรแอบเปิด เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติให้เกิดผลของท่านสูงสุด

 

ถาม -  พอมาถึงที่โพธิปักขิยธรรมสถานแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง

ตอบ -  ควรมาถึงประมาณ 11.00 น. เพื่อได้มีเวลาเพียงพอก่อนขึ้นกรรมฐาน โดยเมื่อมาถึงให้ติดต่อสำนักงาน เจ้าหน้าที่จะให้ลงทะเบียน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาไปที่พัก เพื่อเก็บของและเปลี่ยนชุดเป็นชุดขาว  ลงมารับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร เมื่อถึงเวลานัดหมาย 12.30 น. ให้ไปพร้อมกันที่ศาลาใหญ่ เพื่อขึ้นกรรมฐาน รับศีล 8 และ ถวายสังฆทาน (ถ้าเตรียมมา) พระวิปัสสนาจารย์จะแสดงธรรมเทศนา ให้แนวทางในการปฏิบัติ  จากนั้น วิทยากรจะให้ฝึกปฏิบัติเดินจงกรม นั่งสมาธิ ต่อไป

 

ถาม -  ควรเอาอะไรมาถวายสังฆทาน

ตอบ - ของที่ถวายสังฆทาน แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่จะถวายสำหรับพระวิปัสสนาจารย์ ตลอดจนพระภิกษุ สามเณร เป็นของที่เห็นตามเหมาะสมแก่การบำรุงสมณเพศ และส่วนที่จะเป็นประโยชน์แก่การใช้สอยของผู้ปฏิบัติธรรม เช่น น้ำดื่มเป็นขวดเล็กๆ ถุงดำอย่างหนาใหญ่ กระดาษทิชชู  ขนม อาหาร ผลไม้  ตลอดจน ของกินให้แม่ครัวทำได้ เช่น ปลากระป๋อง วุ้นเส้น เส้นหมี่ น้ำปานะต่างๆ เช่น กาแฟ ไมโล โอวัลติน ทรีอินวัน นม นมถั่วเหลือง เป็นต้น

 

ถาม -  การมาปฏิบัติต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร

ตอบ - ที่โพธิปักขิยธรรมสถาน เป็นสาขาของวัดสุขสำราญ เป็นองค์กรไม่หวังกำไร มุ่งให้ทุกคนที่ตั้งใจจริงได้เข้าปฏิบัติธรรมในสถานที่ที่สัปปายะ คือ สะดวก สะอาด ปลอดภัย เพื่อให้ปฏิบัติธรรรมได้ผลมากที่สุด โดยไม่คำนึงว่าต้องเป็นผู้ที่มีเงินน้อยหรือเงินมาก 

ในกรณีที่เป็นผู้ปฏิบัติที่สนใจมาเอง สามารถร่วมสนับสนุนปัจจัยเพื่อให้เกิดการเกื้อหนุนแก่ตนเอง และผู้อื่น ตามกำลังทรัพย์ และตามกำลังศรัทธา โดยติดต่อบริจาคที่สำนักงาน

ส่วนผู้ที่มาเป็นหมู่คณะ จากหน่วยงานที่มีงบประมาณสนับสนุนสามารถกำหนดงบประมาณได้ ทางโพธิปักขิยธรรมสถานคำนวนค่าใช่จ่ายเบื้องต้นไว้ที่ 450 บาท ต่อคนต่อวัน เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำไฟ ค่าสถานที่ และเงินเดือนเจ้าหน้าที่ เป็นต้น กระนั้น หากหน่วยงานมีงบประมาณไม่เพียงพอสามารถติดต่อและปรึกษาทางเจ้าหน้าที่ได้

 

ถาม -  ปัจจัยถวายเป็นอาจริยบูชา และค่าตอบแทนวิทยากร

ตอบ - ในคืนก่อนวันปิดคอร์ส จะมีการตั้งกล่องเพื่อถวายปัจจัยเป็นอาจาริยบูชา แก่พระวิปัสสนาจารย์ เพื่อถวายในพิธีลากรรมฐาน โยคีสามารถถวายได้ตามกำลังศรัทธา ซึ่งปัจจัยส่วนนี้ จะถวายพระวิปัสสนาจารย์ทั้งหมด ไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆเข้าสำนักงาน  ส่วนทีมวิทยากรนั้นเป็นผู้มีจิตอาสาเข้ามาโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ

 

ขออนุโมทนาบุญทุกท่าน

การสมัครเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 

  • ระเบียบการสมัครเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน

1.  สมัครล่วงหน้าตามตารางที่กำหนดไม่น้อยกว่า 7 วัน ตรวจสอบตารางปฏิบัติธรรม ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-2238-9928, 08-7028-6616 หรือ Inbox เข้ามาที่ facebook fanpage โพธิปักขิยธรรมสถาน

2.  ยืนยันการเข้าปฏิบัติแน่นอนตามตารางที่กำหนด ไม่น้อยกว่า 3 วัน ถ้าหากท่านไม่ยืนยันการเข้าปฏิบัติตามกำหนด ทางมูลนิธิฯ ถือว่าท่านสละสิทธิ์

3.  เพื่อประโยชน์ของผู้ปฏิบัติ ควรอยู่ปฏิบัติครบตามตารางเวลาที่กำหนด

4.  ผู้ปฏิบัติควรไปถึงสถานที่ปฏิบัติก่อนเวลา 11.00 น. ตารางกิจกรรมประจำวัน

5.  สำหรับผู้สมัครเข้าปฏิบัติในตาราง การปฏิบัติเข้ม ผู้สมัครต้องได้รับการพิจารณาตามสภาวธรรม โดย พระครูภาวนาวิหารธรรม วิ. (เหล็ก จนฺทสีโล)  หรือ พระอาจารย์มหาบุญทัน รตนปญฺโญ

6.  ปิดวาจา เพื่อประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติธรรม ในการปฏิบัติ จะให้ปิดวาจา และงดใช้เครื่องสื่อสารทุกชนิด ทั้งในและนอกห้องพัก หากมีธุระกิจด่วนให้ติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่สำนักงานเท่านั้น (สามารถฝากโทรศัพท์มือถือไว้ที่สำนักงานก่อนเข้าปฏิบัติ) กฎระเบียบการเข้าปฏิบัติ

7.  ค่าใช้จ่ายในการเข้าปฏิบัติ สำนักปฏิบัติธรรมมีนโยบายที่ให้ผู้สนใจเข้าปฏิบัติธรรมได้โดย มีค่าใช้จ่ายตามกำลังทรัพย์ และกำลังศรัทธา โดยสามารถติดต่อบริจาคได้ ที่สำนักงาน โดยตรง

 

การเตรียมตัวเข้าปฏิบัติธรรม

ถาม - ที่พักเป็นอย่างไร 

ตอบ - ที่พักแยกบริเวณ ชาย หญิง ไม่พักรวมกัน  ที่พัก อยู่ติดกับ ศาลาปฏิบัติธรรม  มีไฟตามทางเดินตลอด 

ในห้องมีห้องน้ำในตัว มีมุ้งลวด  มีไฟฟ้า มีพัดลม ไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น  โดยปกติจะหักห้องละ 1 คน  ในช่วงที่มีผู้ปฏิบัติเข้ามาก เช่นใน ช่วงวันสำคัญ ทางพระพุทธศาสนา  หรือเทศกาลหยุดยาว จะพักห้องละ 2-4 คน  ทางเจ้าหน้าที่จะจัด และพิจารณาตามความเหมาะสม และรักษาระยะห่างตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด -19 อีกครั้ง

 

ถาม - การแต่งกายอย่างไร

ตอบ ชุดปฏิบัติธรรมสีขาวล้วน ทั้งชายและหญิง   (ผู้หญิงสามารถใช้ได้ทั้งชุดปฏิบัติธรรมผ้าถุง และกางเกง ไม่ต้องใส่สไบ และหากไม่สะดวกใส่สีขาว ให้ใช้เป็นกางเกงสีดำไม่มีลวดลายได้) หรือสามารถใส่เป็นกางเกงขายาว เสื้อยืดสีขาวได้   หากไม่มีสามารถขอยืมชุดปฏิบัติธรรมได้ที่สำนักงาน  ผู้หญิงผมยาว ควรรวบผม หรือเกล้าผมให้เรียบร้อย ไม่แต่งหน้า ไม่ใส่เครื่องประดับ

 

ถาม -  ควรเตรียมจัดกระเป๋าอย่างไรเพื่อมาปฏิบัติธรรม

ตอบ -

1. ของใช้ส่วนตัว สำหรับไปค้างคืนตามปกติ โดยเสื้อผ้า เป็นชุดปฏิบัติธรรมสีขาวล้วน  ควรเตรียมเสื้อผ้ามาให้เพียงพอกับจำนวนวันที่มาปฏิบัติ  (ในห้องที่พัก มีกะละมังถังน้ำ มีราวตากผ้า ให้ซักผ้าได้ แต่จะเป็นภาระและรบกวนการปฏิบัติ)  พื้นที่ของโพธิปักขิยธรรมสถานติดภูเขา กลางคืน โดยเฉพาะหน้าหนาว และหน้าฝน อากาศจะเย็นมาก อาจเตรียมเครื่องกันหนาวตามความเหมาะสม 

2. ให้นำเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน ยาทากันยุง (ใช้สำหรับตอนปฏิบัตินอกที่พัก) ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เช่น  ยาประจำตัว ให้นำมาเอง

3.  ทางสำนักงานจัดเตรียมหมอน ผ้าห่ม ที่นอน ผ้าปูที่นอนให้ ผู้เข้าปฏิบัตธรรมอาจจะนำผ้าห่มมาเพิ่มเติมหากกลัวหนาว กุฏิที่พักเป็นห้องมีมุ้งลวด ไม่ต้องนำมุ้งมา

4. ไม่เอางาน หนังสือ คอมพิวเตอร์ แท๊บเบล็ต หรือสิ่งที่จะกวนใจมาด้วย มือถือไม่ควรนำมาเปิด และไม่ควรแอบเปิด เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติให้เกิดผลของท่านสูงสุด 

 

ถาม -  พอมาถึงที่โพธิปักขิยธรรมสถานแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง

ตอบ - มาถึงประมาณ  11.00 น. ติดต่อสำนักงาน เจ้าหน้าที่จะให้ลงทะเบียน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาไปที่พัก เพื่อเก็บของและเปลี่ยนชุดเป็นชุดขาว  ลงมารับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร จากนั้น 12.30 น. ให้ไปพร้อมกันที่ศาลาใหญ่ เพื่อขึ้นกรรมฐาน รับศีล 8 และ ถวายสังฆทาน (ถ้าเตรียมมา) พระวิปัสสนาจารย์จะแสดงธรรมเทศนา ให้แนวทางในการปฏิบัติ  จากนั้น วิทยากรจะให้ฝึกปฏิบัติเดินจงกรม นั่งสมาธิ ต่อไป

 

ถาม -  ควรเอาอะไรมาถวายสังฆทาน

ตอบ - ของที่ถวายสังฆทาน แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ

(1) ส่วนที่จะถวายสำหรับพระวิปัสสนาจารย์ ตลอดจนพระภิกษุ สามเณร เป็นของที่เห็นตามเหมาะสมแก่การบำรุงสมณเพศ และ

(2) ส่วนที่จะเป็นประโยชน์แก่การใช้สอยของผู้ปฏิบัติธรรม เช่น น้ำดื่มเป็นขวดเล็กๆ ถุงดำอย่างหนาใหญ่ กระดาษทิชชู  ขนม อาหาร ผลไม้  ตลอดจน ของกินให้แม่ครัวทำได้ เช่น ปลากระป๋อง วุ้นเส้น เส้นหมี่ น้ำปานะต่างๆ เช่น กาแฟ ไมโล โอวัลติน ทรีอินวัน นม นมถั่วเหลือง เป็นต้น

 

ถาม -  การเตรียมของใส่บาตรในวันสำคัญ

ทางสำนักงานจะเตรียมของใส่บาตรไว้ให้ทุกท่านที่มาร่วมพิธีใส่บาตร โดยมีของเพียงพอกับจำนวนพระที่มารับบิณบาตรในวันนั้นๆ  โดยผู้ที่เข้าปฏิบัติธรรมสามารถร่วมบริจาคปัจจัยตามกำลังใส่ตู่ค่าของใส่บาตรได้ตามกำลังศรัทธา 

 

ถาม -  ระหว่างปฏิบัติธรรมทานอาหารอย่างไร

ตอบ - ทานอาหารเช้าตอน 7.00 น. และอาหารเที่ยง ตอน 11.00 น. ไม่ทานอาหารเย็น และดื่มน้ำปานะ (น้ำหวาน ชา ไมโล นม กาแฟ น้ำผลไม้ต่างๆ) ตอน 17.00 น. อาหารเป็นอาหารไทยที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ใหม่โดยเฉพาะ และมีอาหารที่ได้จากศรัทธาญาติโยมที่บิณฑบาตในแต่ละวันด้วย หากต้องการอาหารมังสวิรัติ สามารถแจ้งเพื่อเจ้าหน้าที่จัดเตรียมได้

ทั้งนี้ท่านสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพอาหารสำหรับพระภิกษุ สามเณร และโยคีผู้ปฏิบัติธรรม วันละ 3,000 บาท หรือ ตามกำลังศรัทธา

 

ถาม -  การเป็นเจ้าภาพถวายอาหารสำหรับพระภิกษุ สามเณร และโยคีผู้ปฏิบัติธรรม

ตอบ -  หากมีจิตศรัทธาเป็นเจ้าภาพอาหารสำหรับพระภิกษุ สามเณร และโยคีผู้ปฏิบัติธรรม วันละ 3,000 บาท   สามารถแจ้งได้ที่สำนักงาน ระบุวันที่ต้องการเป็นเจ้าภาพ และในวันที่ระบุนั้น เวลา 11.00 น. ให้ไปที่หอฉัน เพื่อถวายเพล พระภิกษุ สามเณร ทั้งนี้ สามารถนำใบอนุโมทนาไปหักลดหย่อนภาษีได้

หรือสามารถเป็นเจ้าภาพประจำคอร์ส ระยะ 4 วัน 12,000 บาท คอร์สเข้ม 7 วัน 21,000 บาท  ได้ 

 

ถาม -  การมาปฏิบัติต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร

ตอบ - ที่โพธิปักขิยธรรมสถาน เป็นสาขาของวัดสุขสำราญ เป็นองค์กรไม่หวังกำไร มุ่งให้ทุกคนที่ตั้งใจจริงได้เข้าปฏิบัติธรรมในสถานที่ที่สัปปายะ คือ สะดวก สะอาด ปลอดภัย เพื่อให้ปฏิบัติธรรรมได้ผลมากที่สุด โดยไม่คำนึงว่าต้องเป็นผู้ที่มีเงินน้อยหรือเงินมาก 

ในกรณีที่เป็นผู้ปฏิบัติที่สนใจมาเอง สามารถร่วมสนับสนุนปัจจัยเพื่อให้เกิดการเกื้อหนุนแก่ตนเอง และผู้อื่น ตามกำลังทรัพย์ และตามกำลังศรัทธา โดยติดต่อบริจาคที่สำนักงาน ทั้งนี้ สามารถนำใบอนุโมทนาไปหักลดหย่อนภาษีได้

ส่วนผู้ที่มาเป็นหมู่คณะ จากหน่วยงานที่มีงบประมาณสนับสนุนสามารถกำหนดงบประมาณได้ ทางโพธิปักขิยธรรมสถานคำนวนค่าใช่จ่ายเบื้องต้นไว้ที่ 450 บาท ต่อคนต่อวัน เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำไฟ ค่าสถานที่ และเงินเดือนเจ้าหน้าที่ เป็นต้น กระนั้น หากหน่วยงานมีงบประมาณไม่เพียงพอสามารถติดต่อและปรึกษาทางเจ้าหน้าที่ได้

 

ถาม -  ปัจจัยถวายเป็นอาจริยบูชา และค่าตอบแทนวิทยากร

ตอบ - ในคืนก่อนวันปิดคอร์ส จะมีการตั้งกล่องเพื่อถวายปัจจัยเป็นอาจาริยบูชา แก่พระวิปัสสนาจารย์ เพื่อถวายในพิธีลากรรมฐาน โยคีสามารถถวายได้ตามกำลังศรัทธา ซึ่งปัจจัยส่วนนี้ จะถวายพระวิปัสสนาจารย์ทั้งหมด ไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆเข้าสำนักงาน  ส่วนทีมวิทยากรนั้นเป็นผู้มีจิตอาสาเข้ามาโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ

 

ขออนุโมทนาบุญทุกท่าน

โพธิปักขิยธรรมสถาน มูลนิธิวิปัสสนามิตรภาพ

 

 

อ่านเพิ่มเติม

 

 

  • การสมัครเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน และการเตรียมตัวมาปฏิบัติธรรม

 

 

 

Left-Pic

 

"เมื่อตัณหาที่ตัวอยากมีมาก มันก็เป็นตัวทุกข์มาก อยากมาก ไม่ได้ เพราะอยากเนี่ยให้ถอน ให้ทำแต่ไม่ให้อยาก ทำได้มั๊ยละ ถ้าทำได้ก็ได้"


พระครูภาวนาวิหารธรรม วิ.

(เหล็ก จนฺทสีโล)

 

News-Home

กิจกรรมโพธิปักขิยธรรมสถาน ประจำเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ 2567

 

มกราคม 2567 พระอาจารย์มหาบุญทัน รตนปญฺโญและคณะสงฆ์ออกจาริกธุดงค์

และ ปิดเพื่อทำความสะอาดประจำปี 

15-18 กุมภาพันธ์ 2567 เปิดคอร์สแรกของปี 2567

27 กุมภาพันธ์ 2567 กิจกรรมวันมาฆบูชา  (ขอเชิญใส่บาตร และเวียนเทียน เวลา 8.30 น.)

วิธีการสมัครเข้าปฏิบัติธรรม และ ตารางคอร์สปฏิบัติธรรม

 

 

 

ขอเรียนเชิญ ปฏิบัติธรรม และเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ และผู้ปฏิบัติธรรม

 

หลักสูตร 4 วัน 16,000 บาท หลักสูตร 7 วัน 28,000 บาท หรือ วันละ 4,000 บาท (ตรวจสอบตารางปฏิบัติธรรม) 

(ประกาศชื่อในป้ายประกาศ และเป็นตัวแทนเข้าถวายเพลพระภิกษุสงฆ์ ใบอนุโมทนาบัตรใช้ลดหย่อนภาษีได้)

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (สาขาประชานิเวศน์ 1)  ชื่อบัญชี “มูลนิธิวิปัสสนามิตรภาพ” เลขที่ 085-2-36428-6

แจ้งการเป็นเจ้าภาพ  และส่งหลักฐานการโอนได้ที่ inbox FB Page โพธิปักขิยธรรมสถาน 

และขอร่วมอนุโนทนามาณ โอกาสนี้ด้วย

 

 

 

 

 

รักในความเป็นอยู่ของตน

รักในความเป็นอยู่ของเพื่อนร่วมโลก

รักในสิ่งที่เรามี

รักในสิ่งที่เราพึ่งได้มา

และสุดท้ายคือรักในทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะจากไป

 

พ.บุญทัน รตนปญฺโญ

พระวิปัสสนาจารย์โพธิปักขิยธรรมสถาน

 

 

 

 

 

อ่านรีวิวโพธิปักขิยธรรมสถาน คลิกที่นี่ 

 

ตรวจสอบตารางปฏิบัติธรรม โพธิปักขิยธรรมสถาน คลิกที่นี่

 (รับจำนวนจำกัด และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19)

 

 

 

ติดตามข่าวสาร แจ้งเป็นเจ้าภาพ และสมัครเข้าร่วมปฏิบัติธรรม

ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้

 

Right-Pic

 

"รูปนามเป็นตัวทุกข์ รูปนามไม่เที่ยง รูปนามบังคับไม่ได้ รูปนามอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ เมื่อเรากระทำให้มากในสติปัฎฐาน จะแจ้งด้วยปัญญาโดยชอบ.."

 

พ.บุญทัน รตนปญฺโญ

หลักสูตรปฏิบัติธรรม

การสมัครเข้าปฏิบัติธรรม

ตารางปฏิบัติธรรม

Featured YouTube Slider

Tumma2

บริจาค-banner

Free Joomla! template by L.THEME